คิดสักนิดก่อนเป็นหนี้
"หนี้"เป็นคำที่คนส่วนใหญ่หนีไม่พ้น โดยเฉพาะคนระดับรากหญ้า หรือรากแก้ว ที่หลายคนนิยามกัน ปัญหาหนี้ที่พบมักจะเป็นปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเรารู้ๆกันอยู่ว่า หนี้นอกระบบ
ดอกเบี้ยโหดมากๆ (บางรายดอกเบี้ย 20% ต่อเดือน หรือเท่ากับ 240% ต่อปี ที่โหดกว่านี้ ก็คิดดอกเบี้ย
ร้อยละ 1% ต่อวัน เท่ากับ 365% ต่อปี มากแค่ใหน เอาง่ายๆ แค่จ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียวโดยไม่จ่ายคืนเงินต้นเลย เพียงแค่ปีเดียว เราต้องจ่ายดอกเบี้ย 365 บาทจากเงินที่เราเป็นหนี้ 100บาท โดยที่เรายังเป็นหนี้ 100 บาทเหมือนเดินไม่ลดลงเลย)
ปัญหานี้รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนต้องเสียอนาคต ไม่ว่าออกจากงานเพื่อหนีเจ้าหนี้ หรือก่ออาชญากรรมเพื่อหนีเจ้าหนี้ ฯลฯ
แต่คำถามเดียวกัน ถ้าไปถามคนมีรายได้ระดับกลาง จะพบว่าปัญหาหนี้ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาหนี้บัตรเครดิต
ถามว่าคนระดับกลางมีปัญหาหนี้บัตรเครดิตมากแค่ใหน ดูง่ายๆ
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้รายงานสถานการณ์การรับเรื่องร้องเรียนของศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มุลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยพบว่า
ส่วนใหญ่ยังเป็นปัญหาหนี้บัตรเครดิตถึง 94% คือเป็นหนี้หลายบัตร และเป็นหนี้หลายทาง ไม่มีความรู้ในการจัดการบริหารหนี้สิน ถูกติดตามทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรม ถูกฟ้องศาล ถูกบังคับคดี และแม้บัตรเครดิตจะเป็นหนี้ในระบบ แต่ดอกเบี้ยก็โหดไม่น้อยเช่นกัน (โดยทั่วไปจะสูงถึง 20% ต่อปี)
แต่ถ้าถามคนเหล่านั้นว่า รู้หรือไม่ว่าหนี้ที่ตนเองเป็นอยู่นั้นดอกเบี้ยสูงหรือไม่ คำตอบคือ รู้ แต่ทำไมถึงยังเป็น ก็เพราะคนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินต้นทุนถูกได้ เพราะมีคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ของสถาบันการเงิน
แล้วทำไมถึงต้องเป็นหนี้
ส่วนหนึ่งเกิดจากความจำเป็นที่รายได้ไม่พอกับรายจ่าย แต่ก็มีส่วนหนึ่งเหมือนกันที่ปัญหาการเป็นหนี้เกิดจากพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของตนเอง
คือใช้จ่ายโดยไม่คำนึงถึงความจำเป็น หรือประโยชน์ที่ได้รับอย่างจริงจัง ไม่ได้คำนึงถึงการออมเพื่ออนาคต ฯลฯ
ซึ่งเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจในการบริหารเงินที่ถูกต้อง การแก้ปัญหาหนี้ที่ดีที่สุดคือ แก้ที่ตัวเราเอง
หลายกรณีสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการจัดการงินของตนเอง ดังนั้น เราลองมาถามตัวเองซักนิดก่อนคิดเป็นหนี้ดีมั้ย
ถ้าใครตอบคอลัมน์ ก ทั้งหมด แสดงว่าการก่อหนี้ครั้งนี้ มีเหตุผลมาเพียงพอ และไม่น่าจะมีปัญหาทางการเงินในอนาคต
(ที่มา โครงการส่งเสริมการออมและการบริหารการงินส่วนบุคคล ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาความรู้ตลาดทุน (TSI) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
ผมเห็นว่าบัตรเครดิตดอกเบี้ยโหด บางท่านอาจว่าใช่เลย บัตรเครดิตเอาเปรียบประชาชน อย่างนี้ต้องปิดถนนประท้วง แต่เดี๋ยวก่อนครับ บัตรเครดิตใช่ว่าจะเป็นผู้ร้ายเสมอไป (ก็ถ้าเป็นผู้ร้าย ทำไมคนแทบทุกคนยังถือบัตรเครดิตกันอยู่หล่ะ ลองล้วงกระเป๋าตังค์คุณออกมาดูนะ ผมกล้าท้าเลยว่า ต้องมีบัตรเครดิตไม่ต่ำกว่า 1ใบ) อ้าว แต่ถ้าไม่ใช่ผู้ร้าย แล้วทำไมมีหลายใบคนหมดเนื้อหมดตัว ครอบครัวแตกแยกเพราะบัตร เครดิตหล่ะ
แล้วพบกันใหม่ในเรื่องราวครั้งต่อไปนะครับ
นนท์ สรานนท์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น